คู่มือ DPark Online

บทนำ

DPark Online: ระบบบริหารจัดการลานจอดรถอัจฉริยะ

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วน ความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และประสิทธิภาพ คือสิ่งที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญ ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้พัฒนาระบบ DPark Online ขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องมือครบวงจรในการบริหารจัดการลานจอดรถของคุณให้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทำไมต้อง DPark Online?
DPark Online มีความสามารถในการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่นและครอบคลุมทุกด้านของลานจอดรถ

  • การจัดการข้อมูลหลัก:
    • ประเภทรถยนต์: กำหนดและจัดการประเภทรถยนต์ได้อย่างละเอียด เพื่อการจัดสรรพื้นที่จอดที่เหมาะสมและการคิดค่าบริการที่ถูกต้อง
    • ยี่ห้อและรุ่นรถยนต์: จัดเก็บข้อมูลยี่ห้อและรุ่นรถยนต์อย่างเป็นระบบ เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติและการตลาด
    • บัตรสมาชิก: สร้าง จัดการ และให้สิทธิพิเศษแก่สมาชิกได้อย่างง่ายดาย เพิ่มความภักดีของผู้ใช้บริการ
    • รูปแบบการคิดเงิน: กำหนดรูปแบบการคิดค่าจอดที่หลากหลายและยืดหยุ่น รองรับทั้งอัตราปกติ, สมาชิก, ช่วงเวลาพิเศษ, และการจอดค้างคืน
    • พื้นที่จอดรถ: บริหารจัดการข้อมูลพื้นที่จอดรถทั้งหมด กำหนดจำนวนช่องจอด และสถานะการใช้งาน
    • ผู้ใช้งานระบบ: จัดการบัญชีผู้ใช้งานระบบ กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงและความสามารถในการใช้งาน
  • การดำเนินงานที่รวดเร็วและแม่นยำ: ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย DPark Online ช่วยให้การจัดการลานจอดรถเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม่นยำ ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน และลดความผิดพลาดจากการทำงานแบบเดิม
  • ความปลอดภัยและการควบคุม: ระบบบันทึกข้อมูลการเข้าออกและค่าบริการอย่างเป็นระบบ ช่วยให้สามารถตรวจสอบ ติดตาม และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความปลอดภัยและลดความเสี่ยง
  • ความสะดวกสบายในการใช้งาน: DPark Online ถูกออกแบบด้วย User Interface ที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้ผู้ใช้งานทุกระดับสามารถเรียนรู้และใช้งานระบบได้อย่างรวดเร็ว
  • การลดต้นทุนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การบริหารจัดการแบบดิจิทัลช่วยลดการใช้เอกสารและทรัพยากร ลดต้นทุนการดำเนินงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • รายงานและการวิเคราะห์: ระบบมีรายงานที่หลากหลายครอบคลุมทุกด้านของการดำเนินงาน เช่น รายงานการเข้าออก, รายงานค่าจอดรถ, รายงาน E-Stamp ช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมและนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ
  • ระบบ EStamp: บริหารจัดการและให้ส่วนลดค่าจอดรถด้วยระบบ E-Stamp ที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ
  • การตั้งค่าระบบ: ปรับแต่งการทำงานของระบบให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร 
คู่มือนี้มีอะไรบ้าง?

คู่มือนี้จะนำคุณไปสู่การใช้งานระบบ DPark Online อย่างละเอียด ครอบคลุมตั้งแต่การตั้งค่าข้อมูลพื้นฐาน (ประเภทรถยนต์, ยี่ห้อ/รุ่น, พื้นที่จอด), การจัดการผู้ใช้และสมาชิก, การกำหนดรูปแบบการคิดเงิน, การใช้งานระบบ E-Stamp, การตรวจสอบรายงานต่างๆ, ไปจนถึงการตั้งค่าระบบ เพื่อให้คุณสามารถใช้งาน DPark Online ได้อย่างเต็มศักยภาพ

เริ่มต้นใช้งาน DPark Online ได้เลย!

เราเชื่อมั่นว่าคู่มือนี้จะเป็นเพื่อนนำทางที่มีค่าสำหรับการใช้งานระบบ DPark Online หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลระบบของเรา เราพร้อมให้การสนับสนุนคุณเสมอ

Login / ลงชื่อเข้าระบบ

Login ลงชื่อเข้าระบบ DPark Online

หน้าลงชื่อเข้าใช้ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก:

  1. ลงชื่อเข้าระบบ (สำหรับกรอกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน)
  2. ลงชื่อผ่านทางอื่น (เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google หรือ Facebook)

ส่วนที่ 1: ลงชื่อเข้าระบบ

  • ชื่อผู้ใช้งาน: กรอกชื่อผู้ใช้หรืออีเมลของคุณ
  • รหัสผ่าน: กรอกรหัสผ่านที่ตั้งไว้
  • ปุ่ม “Login”: กดเพื่อเข้าสู่ระบบ

ส่วนที่ 2: ลงชื่อผ่านทางอื่น

  • Google Login: กดปุ่ม “ดำเนินการต่อด้วย

Google” เพื่อเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google

Facebook Login: กดปุ่ม “ดำเนินการต่อด้วย Facebook” เพื่อเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Facebook

หากพบปัญหาในการเข้าสู่ระบบ สามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ DPark ได้ที่ DPark Support.

Home / หน้าจอหลัก

องค์ประกอบของหน้าจอหลัก
หลังจากผู้ใช้ทำการเข้าสู่ระบบสำเร็จ จะพบกับหน้าจอหลัก ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ส่วน ดังนี้

1. Title Bar หรือ Navbar

Home หน้าจอหลัก

บริเวณด้านบนของหน้าจอ ซึ่งมีองค์ประกอบหลัก ได้แก่:

  • โลโก้ (Logo): แสดงสัญลักษณ์ของระบบหรือองค์กร
  • User Profile: แสดงข้อมูลผู้ใช้ปัจจุบัน และเมนูสำหรับจัดการบัญชี เช่น ออกจากระบบ (Logout)

2. เมนูการใช้งาน (Sidebar Menu)

อยู่ทางด้านซ้ายของหน้าจอ ประกอบไปด้วยรายการเมนูหลักที่ใช้ในการเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ของระบบ เช่น:

  • Dpark Online (ระบบลานจอดรถ)
  • E-stamp (ระบบตราประทับอิเล็กทรอนิกส์)
  • User Authentication (การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้)
  • ตั้งค่า (Settings) (การตั้งค่าต่าง ๆ ของระบบ)
  • System (ฟังก์ชันเฉพาะของระบบ)

3. ส่วนการแสดงผล (Content Area)
บริเวณหลักของหน้าจอ ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชันที่เลือกจากเมนู เช่น:

  • รายงานสรุปรายรับและจำนวนรถที่เข้า-ออก
  • กราฟแสดงข้อมูลสถิติในรูปแบบต่าง ๆ
  • ตารางข้อมูลรายละเอียดการทำรายการ

Dashboard / ระบบบริหารจัดการลานจอดรถ

เมนู Dashboard ส่วนที่ 1
Dashboard นี้แสดงข้อมูลสรุปเกี่ยวกับรายได้และจำนวนรถเข้าออกของลานจอดรถ โดยมีรายละเอียดดังนี้

Dashboard ระบบบริหารจัดการลานจอดรถ

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ
    • รายได้รวมทั้งหมด (ปีนี้): แสดงรายได้รวมทั้งหมดของปีปัจจุบัน
    • รายได้รวมทั้งหมด (เดือนนี้): แสดงรายได้รวมทั้งหมดของเดือนปัจจุบัน
    • รายได้รวมทั้งหมด (สัปดาห์นี้): แสดงรายได้รวมทั้งหมดของสัปดาห์ปัจจุบัน
    • รายได้รวมทั้งหมด (วันนี้): แสดงรายได้รวมทั้งหมดของวันนี้
  2. ข้อมูลสรุปจำนวนรถเข้าออก
    • จำนวนรถที่เข้า (ปีนี้): แสดงจำนวนรถที่เข้ามาจอดในปีปัจจุบัน
    • จำนวนรถที่เข้า (วันนี้): แสดงจำนวนรถที่เข้ามาจอดในวันนี้
    • จำนวนรถที่ออก (ปีนี้): แสดงจำนวนรถที่ออกจากลานจอดในปีปัจจุบัน
    • จำนวนรถที่ออก (วันนี้): แสดงจำนวนรถที่ออกจากลานจอดในวันนี้
  3. กราฟแสดงข้อมูล
    • กราฟเงินค่าจอดรถ (วันนี้): แสดงกราฟแท่งเปรียบเทียบค่าจอดรถของวันนี้
    • กราฟเงินค่าจอดรถ (สัปดาห์นี้): แสดงกราฟวงกลมเปรียบเทียบค่าจอดรถของสัปดาห์นี้ 

การใช้งาน

  • การดูข้อมูลสรุป: ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลสรุปเกี่ยวกับรายได้และจำนวนรถเข้าออกได้ทันที
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการจัดการลานจอดรถ

ประโยชน์

  • การแสดงข้อมูลภาพรวม: ช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมของรายได้และจำนวนรถเข้าออกได้อย่างรวดเร็ว
  • การติดตามข้อมูล: ช่วยให้สามารถติดตามข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การตัดสินใจ: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการลานจอดรถได้อย่างมีข้อมูล

เมนู Dashboard ส่วนที่ 2: กราฟเปรียบเทียบปีที่แล้ว vs ปีนี้

Dashboard นี้แสดงกราฟเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างปีที่แล้วกับปีปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

 กราฟเปรียบเทียบรายปี

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. กราฟเส้นเปรียบเทียบ
    • แกน X (แนวนอน): แสดงช่วงเวลา (ในภาพคือวันในสัปดาห์)
    • แกน Y (แนวตั้ง): แสดงค่าข้อมูล (ในภาพไม่ได้ระบุหน่วยวัด)
    • เส้นกราฟสีเหลือง: แสดงข้อมูลของปีปัจจุบัน
    • เส้นกราฟสีแดง: แสดงข้อมูลของปีที่แล้ว
    • จุดบนเส้นกราฟ: แสดงค่าข้อมูล ณ ช่วงเวลาต่างๆ
  2. คำอธิบายกราฟ
    • หัวข้อกราฟ: “กราฟเปรียบเทียบปีที่แล้ว vs ปีนี้”
    • ปุ่มควบคุมกราฟ
      • ปุ่มแว่นขยาย: ซูมเข้า/ออกกราฟ
      • ปุ่มเส้นแนวตั้ง 3 เส้น: เปิดเมนูการตั้งค่ากราฟ
  3. คำอธิบายใต้กราฟ
    • คำอธิบายสี: แสดงคำอธิบายสีของเส้นกราฟ (สีเหลืองคือ “ปีนี้”, สีแดงคือ “ปีที่แล้ว”)

การใช้งาน

  • การดูข้อมูลเปรียบเทียบ: ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างปีที่แล้วกับปีปัจจุบันได้
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อดูแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงและวางแผนการจัดการลานจอดรถ

ประโยชน์

  • การแสดงข้อมูลภาพรวม: ช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงข้อมูลระหว่างปี
  • การเปรียบเทียบข้อมูล: ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างปีได้อย่างง่ายดาย
  • การวิเคราะห์แนวโน้ม: ช่วยให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของข้อมูล

ข้อสังเกต

  • ในภาพไม่ได้ระบุหน่วยวัดของแกน Y ทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่าข้อมูลที่เปรียบเทียบคืออะไร (เช่น จำนวนรถ, รายได้)
  • การแสดงผลกราฟอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการตั้งค่าและข้อมูลที่มี

เมนู Dashboard ส่วนที่ 3: กราฟเงินค่าจอดรถ (สัปดาห์นี้)
Dashboard นี้แสดงกราฟแท่งเปรียบเทียบข้อมูลเงินค่าจอดรถของสัปดาห์ปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

กราฟเงินค่าจอดรถ

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. กราฟแท่งเปรียบเทียบ
    • แกน X (แนวนอน): แสดงวันในสัปดาห์ (Mon, Tue, Wed, Thu, Fri, Sat, Sun)
    • แกน Y (แนวตั้ง): แสดงค่าเงินค่าจอดรถ (ในภาพไม่ได้ระบุหน่วยวัด)
    • แท่งกราฟสีน้ำเงิน: แสดงค่าเงินค่าจอดรถของ “ปกติ”
    • แท่งกราฟสีเขียว: แสดงค่าเงินค่าจอดรถของ “สมาชิกรายเดือน”
  2. คำอธิบายกราฟ
    • หัวข้อกราฟ: “กราฟเงินค่าจอดรถ”
    • ปุ่มควบคุมกราฟ
      • ปุ่มเส้นแนวตั้ง 3 เส้น: เปิดเมนูการตั้งค่ากราฟ
  3. คำอธิบายใต้กราฟ:
    • คำอธิบายสี: แสดงคำอธิบายสีของแท่งกราฟ (สีน้ำเงินคือ “ปกติ”, สีเขียวคือ “สมาชิกรายเดือน”)
  4. ปุ่มตัวกรองช่วงเวลา:
    • 6 เดือนล่าสุด: แสดงข้อมูลของ 6 เดือนล่าสุด
    • วันนี้: แสดงข้อมูลของวันนี้
    • สัปดาห์นี้: แสดงข้อมูลของสัปดาห์นี้
    • เดือนนี้: แสดงข้อมูลของเดือนนี้

การใช้งาน

  • การดูข้อมูลเปรียบเทียบ: ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลเปรียบเทียบเงินค่าจอดรถของ “ปกติ” และ “สมาชิกรายเดือน” ในแต่ละวันของสัปดาห์
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อดูแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงและวางแผนการจัดการลานจอดรถ

ประโยชน์

  • การแสดงข้อมูลภาพรวม: ช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมของรายได้จากค่าจอดรถในแต่ละวันของสัปดาห์
  • การเปรียบเทียบข้อมูล: ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบรายได้จากค่าจอดรถของ “ปกติ” และ “สมาชิกรายเดือน” ได้
  • การวิเคราะห์แนวโน้ม: ช่วยให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของรายได้จากค่าจอดรถ

ประโยชน์

  • ในภาพไม่ได้ระบุหน่วยวัดของแกน Y ทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่าข้อมูลที่เปรียบเทียบคืออะไร (เช่น จำนวนเงิน, จำนวนรถ)
  • การแสดงผลกราฟอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการตั้งค่าและข้อมูลที่มี

Report / รายงานต่างๆ

รายงานรถเข้าออก
รายงานนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบข้อมูลการเข้าออกของรถยนต์ในระบบ DPark Online โดยมีรายละเอียดดังนี้

รายงานรถเข้าออก

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. แถบตัวกรองข้อมูล:
    • ประเภทรายงาน: มีตัวเลือกในการเลือกประเภทรายงานดังนี้: 
      • รายงานรถเข้าออกทั้งหมด
      • รายงานรถยังไม่ออก หรือ รถคงค้าง
      • รายงานรถออกแล้ว
      • รายงานรถจอดฟรี
    • ช่วงวันที่: แสดงช่วงวันที่ของข้อมูลที่แสดงในรายงาน (ในภาพคือ 3 เม.ย. 25 – 4 เม.ย. 25)
    • ช่องค้นหา: ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลรถเข้าออกตามเงื่อนไขที่ต้องการ
    • ปุ่มแสดงตัวกรอง: ใช้สำหรับเปิด/ปิดการแสดงตัวกรองข้อมูล
    • ปุ่มส่งออกข้อมูล: ใช้สำหรับส่งออกข้อมูลเป็นไฟล์ (อาจเป็น Excel หรือ PDF)
  2. ตารางแสดงข้อมูลรถเข้าออก:
    • คอลัมน์ “เวลาเข้า”: แสดงเวลาที่รถยนต์เข้า
    • คอลัมน์ “เวลาออก”: แสดงเวลาที่รถยนต์ออก (หากมี)
    • คอลัมน์ “หมายเลขทะเบียน”: แสดงหมายเลขทะเบียนรถยนต์
    • คอลัมน์ “โปรไฟล์”: แสดงโปรไฟล์ของผู้ใช้บริการ
    • คอลัมน์ “โปรโมชั่น”: แสดงโปรโมชั่นที่ใช้ (หากมี)
    • คอลัมน์ “ประเภท”: แสดงประเภทของการเข้าออก (เช่น freeMember, visitor)
    • รายการข้อมูลรถเข้าออกที่แสดงตามประเภทรายงานที่เลือก
  3. ส่วนท้ายของหน้าจอ:
    • ปุ่ม “Create Filter: ใช้สำหรับสร้างตัวกรองข้อมูลเพิ่มเติมตามเงื่อนไขที่ต้องการ
    • ตัวเลือกการแสดงผลจำนวนรายการต่อหน้า: (25, 50, 100, 500, 900)
    • ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้า: (1, 2, 3, 4, 5, 6)

การใช้งาน

  • การเลือกประเภทรายงาน: เลือกประเภทรายงานที่ต้องการดูข้อมูล
  • การกรองข้อมูล: เลือกช่วงวันที่ที่ต้องการดูข้อมูล
  • การค้นหาข้อมูล: พิมพ์ข้อมูลที่ต้องการค้นหาในช่องค้นหา
  • การสร้างตัวกรองข้อมูล: คลิกปุ่ม “Create Filter” เพื่อสร้างตัวกรองข้อมูลเพิ่มเติมตามเงื่อนไขที่ต้องการ
  • การเปลี่ยนหน้า: ใช้ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้าเพื่อดูข้อมูลในหน้าอื่นๆ
  • การปรับจำนวนรายการต่อหน้า: เลือกจำนวนรายการที่ต้องการแสดงผลต่อหน้า
  • การส่งออกข้อมูล: คลิกปุ่มส่งออกข้อมูลเพื่อส่งออกข้อมูลเป็นไฟล์

ประโยชน์

  • การตรวจสอบข้อมูลรถเข้าออก: ช่วยให้สามารถตรวจสอบข้อมูลการเข้าออกของรถยนต์ได้อย่างละเอียด
  • การติดตามข้อมูล: ช่วยให้สามารถติดตามข้อมูลการเข้าออกของรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ช่วยให้สามารถนำข้อมูลการเข้าออกของรถยนต์ไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการจัดการลานจอดรถ
  • การดูข้อมูลตามประเภท: ช่วยให้สามารถดูข้อมูลตามประเภทรายงานที่ต้องการได้อย่างสะดวก

รายงานรายรับค่าจอดรถ
รายงานนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบข้อมูลการคิดค่าจอดรถในระบบ DPark Online โดยมีรายละเอียดดังนี้

รายงานรายรับค่าจอดรถ

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. แถบตัวกรองข้อมูล
    • ช่วงวันที่: แสดงช่วงวันที่ของข้อมูลที่แสดงในรายงาน 
    • ช่องค้นหา: ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลการคิดค่าจอดรถตามเงื่อนไขที่ต้องการ
  2. ตารางแสดงข้อมูลการคิดค่าจอดรถ
    • คอลัมน์ “เลขที่ใบเสร็จ”: แสดงเลขที่ใบเสร็จของการคิดค่าจอดรถ
    • คอลัมน์ “โปรไฟล์”: แสดงโปรไฟล์ของผู้ใช้บริการ
    • คอลัมน์ “หมายเลขทะเบียน”: แสดงหมายเลขทะเบียนรถยนต์
    • คอลัมน์ “เวลารับเงิน”: แสดงเวลาที่รับเงินค่าจอดรถ
    • คอลัมน์ “ค่าจอด”: แสดงค่าจอดรถ (บาท)
    • คอลัมน์ “ส่วนลด”: แสดงส่วนลดค่าจอดรถ (บาท)
    • คอลัมน์ “รับเงิน”: แสดงจำนวนเงินที่รับ (บาท)
    • แถบสรุป: แสดงผลรวมของค่าจอด, ส่วนลด, และรับเงิน
  3. ส่วนท้ายของหน้าจอ
    • ปุ่ม “Create Filter”: ใช้สำหรับสร้างตัวกรองข้อมูลเพิ่มเติมตามเงื่อนไขที่ต้องการ

การใช้งาน

  • การกรองข้อมูล: เลือกช่วงวันที่ที่ต้องการดูข้อมูล
  • การค้นหาข้อมูล: พิมพ์ข้อมูลที่ต้องการค้นหาในช่องค้นหา
  • การสร้างตัวกรองข้อมูล: คลิกปุ่ม “Create Filter” เพื่อสร้างตัวกรองข้อมูลเพิ่มเติมตามเงื่อนไขที่ต้องการ

ประโยชน์

  • การตรวจสอบข้อมูลการคิดค่าจอดรถ: ช่วยให้สามารถตรวจสอบข้อมูลการคิดค่าจอดรถได้อย่างละเอียด
  • การติดตามข้อมูล: ช่วยให้สามารถติดตามข้อมูลการคิดค่าจอดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ช่วยให้สามารถนำข้อมูลการคิดค่าจอดรถไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการจัดการที่จอดรถ

รายงาน E-Stamp
รายงานนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบข้อมูลการใช้ E-Stamp ในระบบ DPark Online มีรายละเอียดดังนี้

รายงาน E-Stamp

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. แถบตัวกรองข้อมูล
    • ช่วงวันที่: แสดงช่วงวันที่ของข้อมูลที่แสดงในรายงาน (ในภาพคือ 6 มี.ค. 25 – 4 เม.ย. 25)
    • ช่องค้นหา: ใช้สำหรับค้นหาข้อมูล E-Stamp ตามเงื่อนไขที่ต้องการ
    • ส่งออกข้อมูล: มีตัวเลือกในการส่งออกข้อมูลเป็นไฟล์ Excel หรือ PDF
  2. ตารางแสดงข้อมูล E-Stamp
    • คอลัมน์ “หมายเลขทะเบียน”: แสดงหมายเลขทะเบียนรถยนต์
    • คอลัมน์ “เวลาที่รับเงิน”: แสดงเวลาที่รับเงิน
    • คอลัมน์ “โปรไฟล์”: แสดงโปรไฟล์ของผู้ใช้บริการ
    • คอลัมน์ “โปรโมชั่น”: แสดงโปรโมชั่นที่ใช้
    • คอลัมน์ “ผู้ทำการ”: แสดงชื่อผู้ทำการ
    • รายการข้อมูล E-Stamp ที่มีข้อมูลต่างๆ เช่น หมายเลขทะเบียน, เวลาที่รับเงิน, โปรไฟล์, โปรโมชั่น, และผู้ทำการ
  3. ส่วนท้ายของหน้าจอ
    • ปุ่ม “Create Filter: ใช้สำหรับสร้างตัวกรองข้อมูลเพิ่มเติมตามเงื่อนไขที่ต้องการ
    • ตัวเลือกการแสดงผลจำนวนรายการต่อหน้า: (25, 50, 100)
    • ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้า: (1, 2, 3, 4)

การใช้งาน

  • การกรองข้อมูล: เลือกช่วงวันที่ที่ต้องการดูข้อมูล
  • การค้นหาข้อมูล: พิมพ์ข้อมูลที่ต้องการค้นหาในช่องค้นหา
  • การสร้างตัวกรองข้อมูล: คลิกปุ่ม “Create Filter” เพื่อสร้างตัวกรองข้อมูลเพิ่มเติมตามเงื่อนไขที่ต้องการ
  • การเปลี่ยนหน้า: ใช้ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้าเพื่อดูข้อมูลในหน้าอื่นๆ
  • การปรับจำนวนรายการต่อหน้า: เลือกจำนวนรายการที่ต้องการแสดงผลต่อหน้า
  • การส่งออกข้อมูล: เลือกรูปแบบไฟล์ที่ต้องการ (Excel หรือ PDF) เพื่อส่งออกข้อมูล

ประโยชน์

  • การตรวจสอบข้อมูล EStamp: ช่วยให้สามารถตรวจสอบข้อมูลการใช้ E-Stamp ได้อย่างละเอียด
  • การติดตามข้อมูล: ช่วยให้สามารถติดตามข้อมูลการใช้ E-Stamp ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ช่วยให้สามารถนำข้อมูลการใช้ E-Stamp ไปวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการจัดการลานจอดรถ
  • การนำเสนอข้อมูล: ช่วยให้สามารถนำเสนอข้อมูลในรูปแบบไฟล์ที่ต้องการ (Excel หรือ PDF)

E-Stamp / ประทับตราจอดรถ

เมนู E-Stamp
เมนู E-Stamp เมนูนี้ใช้สำหรับการจัดการและตรวจสอบข้อมูล E-Stamp โดยมีรายละเอียดดังนี้

เมนู E-stamp

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. แถบค้นหา
    • มีช่องสำหรับป้อน หมายเลขทะเบียนรถ หรือ หมายเลข Ticket เพื่อค้นหาข้อมูล E-Stamp ที่เกี่ยวข้อง
    • ในภาพตัวอย่าง มีการป้อนหมายเลข “0437563932” ในช่องค้นหา
  2. ผลการค้นหา:
    • หลังจากป้อนหมายเลขและทำการค้นหา ระบบจะแสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้อง
    • หมายเลขที่ค้นหา: แสดงหมายเลขที่ใช้ในการค้นหา (“0437563932”)
    • ภาพจากกล้อง: แสดงภาพล่าสุดจากกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับการเข้าออกของรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมระบุวันที่และเวลา (04-04-2025 15:46:34) และชื่อกล้อง (Channel1)
    • ระยะเวลาที่จอด: แสดงระยะเวลาที่รถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ในขณะนั้น (17 ชั่วโมง 52 นาที)
    • สถานะการชำระเงิน: แสดงสถานะการชำระเงินค่าจอดรถของรถยนต์คันดังกล่าว (ยังไม่ได้ชำระ)
  3. ปุ่ม “ดูข้อมูล >>”:
    • ปุ่มนี้จะปรากฏเมื่อระบบพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการค้นหา
    • การคลิกปุ่มนี้จะนำผู้ใช้ไปยังหน้ารายละเอียดข้อมูล E-Stamp เพิ่มเติมสำหรับรถยนต์หรือ Ticket ที่ค้นหา

การใช้งาน

  1. ค้นหาข้อมูล: ป้อนหมายเลขทะเบียนรถ หรือหมายเลข Ticket ที่ต้องการตรวจสอบในช่องค้นหา
  2. ดูผลลัพธ์: ระบบจะแสดงข้อมูลเบื้องต้น เช่น ภาพจากกล้อง, ระยะเวลาจอด, และสถานะการชำระเงิน
  3. ดูข้อมูลเพิ่มเติม: หากต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติม ให้คลิกปุ่ม “ดูข้อมูล >>

ประโยชน์

  • การตรวจสอบสถานะ EStamp: ช่วยให้สามารถตรวจสอบสถานะการใช้งาน E-Stamp ของรถยนต์แต่ละคันได้อย่างรวดเร็ว
  • การติดตามระยะเวลาจอด: ช่วยให้ทราบระยะเวลาที่รถยนต์จอดอยู่ในลานจอด
  • การตรวจสอบสถานะการชำระเงิน: ช่วยให้ทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้ชำระค่าจอดรถแล้วหรือไม่
  • การเชื่อมโยงกับภาพ: แสดงภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อยืนยันข้อมูลการเข้าออกของรถยนต์

หน้ารายละเอียดข้อมูล E-Stamp
หน้านี้แสดงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้าออกและสถานะของรถยนต์ที่ถูกค้นหา โดยมีรายละเอียดดังนี้:

หน้ารายละเอียดข้อมูล E-Stamp

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. ปุ่ม “< Back”:
    • ปุ่มสำหรับกลับไปยังหน้าค้นหา E-Stamp ก่อนหน้า
  2. ข้อมูลรายละเอียดรถยนต์:
    • หมายเลขทะเบียน: แสดงหมายเลขทะเบียนรถยนต์ (“0437563932”)
    • Status: แสดงสถานะปัจจุบันของรถยนต์ (“IN” หมายถึง กำลังจอดอยู่)
    • วันเวลาที่เข้า: แสดงวันที่และเวลาที่รถยนต์เข้าจอด (“04/04/2025 15:46:35”)
    • วันเวลาที่ออก: แสดงวันที่และเวลาที่รถยนต์ออก (ในภาพคือ “ยังไม่ออก”)
    • ระยะเวลาที่จอด: แสดงระยะเวลาที่รถยนต์จอดอยู่ (“18 ชั่วโมง 00 นาที” ซึ่งเพิ่มขึ้นจากหน้าก่อนหน้าเนื่องจากเวลาปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป)
    • ค่าจอดปัจจุบัน: แสดงค่าจอดรถที่คำนวณได้จนถึงปัจจุบัน (“1100 บาท”)
    • สถานะการชำระเงิน: แสดงสถานะการชำระเงินค่าจอดรถ (“ยังไม่ได้ชำระ”)
    • ภาพจากกล้อง: แสดงภาพจากกล้องวงจรปิด ณ เวลาที่รถยนต์เข้าจอด (มีปุ่มเลื่อนซ้าย-ขวาเพื่อดูภาพอื่นๆ หากมี)
    • Profile: แสดงโปรไฟล์ของผู้ใช้บริการ (“ปกติ”)
  3. ปุ่ม “E-stamp”
    • ปุ่มสำหรับจัดการ E-Stamp ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์คันนี้ (อาจเป็นการเพิ่ม, แก้ไข, หรือตรวจสอบ E-Stamp)
ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ E-stamp

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. ปุ่ม “< Back”
    • ปุ่มสำหรับกลับไปยังหน้ารายละเอียดข้อมูล E-Stamp ก่อนหน้า
  2. ข้อความหัวเรื่อง
    • “กรุณาเลือกโปรไฟล์ที่ต้องการ Stamp”: อธิบายวัตถุประสงค์ของหน้าต่างนี้
  3. รายการโปรไฟล์ E-Stamp ที่สามารถเลือกได้
    • แสดงรายการโปรไฟล์ E-Stamp ต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกให้กับรถยนต์คันที่กำลังจัดการได้

ตัวอย่างโปรไฟล์ในภาพ

  • จอดฟรี 5 ชั่วโมง
  • ผู้มีสิทธิ์
  • จอดฟรี 24 ชั่วโมง
  • จอดฟรี 2 ชั่วโมง
  • จอดฟรี 12 ชั่วโมง
  • จอดฟรี 48 ชั่วโมง
  • ปกติ

การใช้งาน

  • เลือกโปรไฟล์: ผู้ใช้คลิกเลือกโปรไฟล์ E-Stamp ที่ต้องการให้กับรถยนต์คันนั้น
  • การดำเนินการ: หลังจากเลือกโปรไฟล์ ระบบอาจจะมีการยืนยันหรือดำเนินการ Stamp E-Stamp ให้กับรถยนต์คันดังกล่าว

ประโยชน์

  • การให้สิทธิ์จอดฟรี: ช่วยให้สามารถให้สิทธิ์จอดฟรีตามเงื่อนไขต่างๆ ได้ง่าย (เช่น จอดฟรีตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนด)
  • การจัดการสิทธิ์พิเศษ: ช่วยให้สามารถจัดการสิทธิ์พิเศษสำหรับผู้มีสิทธิ์ หรือผู้ที่ได้รับอนุญาต
  • ความสะดวกในการใช้งาน: แสดงรายการโปรไฟล์ที่สามารถเลือกได้ชัดเจน

หลังจากเลือกโปรไฟล์:

รายละเอียดรถยนต์ E-stamp

รายละเอียดรถยนต์:

  • ทะเบียนรถ: แสดงหมายเลขทะเบียนรถยนต์ (“0437563932”)
  • สถานะ: แสดงสถานะปัจจุบันของรถยนต์ (“IN” หมายถึง กำลังจอดอยู่)
  • วันเวลาที่เข้า: แสดงวันที่และเวลาที่รถยนต์เข้าจอด (“04/04/2025 15:46:35”)
  • วันเวลาที่ออก: แสดงวันที่และเวลาที่รถยนต์ออก (“ยังไม่ออก”)
  • ระยะเวลาที่จอด: แสดงระยะเวลาที่รถยนต์จอดอยู่ (“18 ชั่วโมง 17 นาที” ซึ่งเพิ่มขึ้นจากหน้าก่อนหน้า)
  • ข้อความรายละเอียด
    • Stamp ให้แก่ เลขทะเบียนรถ: 0437563932 สำเร็จแล้ว”
    • “Profile: จอดฟรี 24 ชั่วโมง” (แสดงโปรไฟล์ E-Stamp ที่ถูกเลือก)
  • ปุ่ม “ปิด”: สำหรับปิดหน้าต่างยืนยันนี้

สรุป: หน้าต่างนี้แจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าการให้ E-Stamp โปรไฟล์ “จอดฟรี 24 ชั่วโมง” แก่รถยนต์ทะเบียน “0437563932” เสร็จสมบูรณ์แล้ว

4. ปุ่ม “ชำระเงิน”

  • ปุ่มสำหรับดำเนินการชำระเงินค่าจอดรถสำหรับรถยนต์คันนี้
    ขั้นตอนการชำระเงิน
    เมื่อผู้ใช้คลิกปุ่ม “ชำระเงิน” ระบบจะนำไปสู่ขั้นตอนการชำระเงิน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:
ขั้นตอนการชำระเงิน
  1. แสดงหน้าสรุปยอดและ QR Code
    • ะบบจะแสดงหน้าสรุปรายละเอียดค่าจอดรถ ได้แก่ ทะเบียนรถ, สถานะ (IN/OUT), วันเวลาที่เข้า, วันเวลาที่ออก (ถ้ามี), และ ค่าจอดรถปัจจุบัน
    • พร้อมกันนี้ ระบบจะแสดง QR Code สำหรับชำระเงิน ผ่าน PromptPay
    • มีปุ่ม Download เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด QR Code นี้ไปสแกนผ่านแอปพลิเคชันธนาคารอื่นได้
  2. สแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร
    • ผู้ใช้เปิดแอปพลิเคชันธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ
    • เลือกเมนู “สแกนจ่าย” หรือเมนูที่เกี่ยวข้องกับการสแกน QR Code
    • สแกน QR Code ที่ปรากฏบนหน้าจอ หรือ QR Code ที่ดาวน์โหลดไว้
  3. ยืนยันการชำระเงิน
    • แอปพลิเคชันธนาคารจะแสดงรายละเอียดการชำระเงินและยอดเงินที่ต้องชำระ
    • ผู้ใช้ตรวจสอบความถูกต้องและยืนยันการชำระเงินตามขั้นตอนของแอปพลิเคชันธนาคาร
  4.  ระบบอัปเดตสถานะการชำระเงิน
    • เมื่อการชำระเงินสำเร็จ ระบบ DPark Online จะได้รับการแจ้งเตือนและอัปเดตสถานะการชำระเงินเป็น “ชำระเงินแล้ว”
    • หน้าจอจะแสดงสัญลักษณ์ยืนยันการชำระเงินสำเร็จ (เครื่องหมายถูกสีเขียว) พร้อมรายละเอียดการชำระเงินและเวลาที่ชำระ
    • ผู้ใช้สามารถดำเนินการออกจากลานจอดรถได้

สรุป: การคลิกปุ่ม “ชำระเงิน” จะนำผู้ใช้ไปสู่กระบวนการชำระค่าจอดรถผ่าน QR Code ของ PromptPay โดยผู้ใช้สามารถสแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร และเมื่อชำระเงินสำเร็จ สถานะการชำระเงินในระบบจะอัปเดต

การใช้งาน

  • ดูรายละเอียด: ผู้ใช้สามารถดูรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการเข้าออกและสถานะของรถยนต์
  • จัดการ EStamp: หากต้องการจัดการ E-Stamp สามารถคลิกที่ปุ่ม “E-stamp”
  • ดำเนินการชำระเงิน: หากต้องการชำระค่าจอดรถ สามารถคลิกที่ปุ่ม “ชำระเงิน”

ประโยชน์

  • แสดงข้อมูลครบถ้วน: แสดงข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับรถยนต์ที่ค้นหาในหน้าเดียว
  • สะดวกต่อการจัดการ: มีปุ่มสำหรับการจัดการ E-Stamp และการชำระเงินโดยตรง
  • ติดตามสถานะ: ช่วยให้ทราบสถานะปัจจุบัน, เวลาเข้า, ระยะเวลาจอด, และสถานะการชำระเงินของรถยนต์

User Authentication / การตรวจสอบผู้ใช้

เมนูผู้ใช้งาน
เมนูนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลผู้ใช้งานในระบบ DPark Online โดยมีรายละเอียดดังนี้

การตรวจสอบผู้ใช้

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. แถบเครื่องมือด้านบน:
    • ปุ่ม “+” → เพิ่มผู้ใช้งานใหม่
    • ปุ่ม → การตั้งค่าเพิ่มเติม (อาจเป็นการนำเข้า/ส่งออกข้อมูล หรือการตั้งค่าอื่นๆ)
    • ปุ่ม → การจัดการคอลัมน์
    • ช่องค้นหา → ค้นหาผู้ใช้งาน
  2. ตารางแสดงรายการผู้ใช้งาน
    • คอลัมน์ Active: แสดงสถานะการเปิด/ปิดใช้งานผู้ใช้งาน
    • คอลัมน์ Username: แสดงชื่อผู้ใช้งาน
    • คอลัมน์ ชื่อ User: แสดงชื่อจริงของผู้ใช้งาน
    • คอลัมน์ เบอร์โทรศัพท์: แสดงเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้งาน
    • คอลัมน์ ประเภท User: แสดงประเภทของผู้ใช้งาน (เช่น Admin)
    • รายการผู้ใช้งานที่มีข้อมูลต่างๆ เช่น สถานะ, ชื่อผู้ใช้งาน, ชื่อจริง, เบอร์โทรศัพท์, และประเภทผู้ใช้งาน
  3. ส่วนท้ายของหน้าจอ
    • ปุ่ม “Create Filter” → ใช้สำหรับสร้างตัวกรองข้อมูล
    • ตัวเลือกการแสดงผลจำนวนรายการต่อหน้า (25, 50, 100)
    • ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้า (หน้า 1, 2, 3)

การใช้งาน

  • การเพิ่มผู้ใช้งาน: คลิกปุ่ม “+” ในแถบเครื่องมือด้านบน
  • การแก้ไข/ลบผู้ใช้งาน: (อาจทำได้โดยการคลิกที่ผู้ใช้งานในตาราง หรือผ่านเมนูการตั้งค่าเพิ่มเติม)
  • การค้นหาผู้ใช้งาน: พิมพ์ชื่อผู้ใช้งาน หรือชื่อจริงในช่องค้นหา
  • การกรองข้อมูล: ใช้ปุ่ม “Create Filter” เพื่อสร้างตัวกรองข้อมูลตามเงื่อนไขที่ต้องการ
  • การเปลี่ยนหน้า: ใช้ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้าเพื่อดูรายการผู้ใช้งานในหน้าอื่นๆ
  • การปรับจำนวนรายการต่อหน้า: เลือกจำนวนรายการที่ต้องการแสดงผลต่อหน้า (25, 50, หรือ 100)
  • การจัดการคอลัมน์: ใช้ปุ่ม “จัดการคอลัมน์” เพื่อปรับแต่งคอลัมน์ที่แสดงในตาราง

ประโยชน์

  • การจัดการผู้ใช้งาน: ช่วยให้สามารถจัดการผู้ใช้งานในระบบได้อย่างเป็นระบบ
  • การค้นหาข้อมูล: ช่วยให้ค้นหาผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
  • การกรองข้อมูล: ช่วยให้แสดงผลเฉพาะผู้ใช้งานที่ต้องการ
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้งานเพื่อการจัดการระบบได้อย่างมีประสิทธิภา

“เพิ่ม/แก้ไข/ลบผู้ใช้งาน” ในระบบ DPark 

เพิ่ม/แก้ไข/ลบผู้ใช้งาน ในระบบ DPark

คำอธิบายหมายเลขในภาพ

  1. สวิตช์ “เปิดใช้งาน”
    • ใช้เพื่อเปิดหรือปิดใช้งานผู้ใช้งาน
    • หากเปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเหลือง) ผู้ใช้งานจะสามารถเข้าสู่ระบบได้
    • หากปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเทา) ผู้ใช้งานจะไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้
  2. ช่อง “Username”
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขชื่อผู้ใช้งาน (Username)
    • ในภาพนี้ แสดงชื่อผู้ใช้งาน “ph001”
  3. ช่อง “User Tel” (เบอร์โทรศัพท์ผู้ใช้งาน)
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้งาน
    • ในภาพนี้ แสดงเบอร์โทรศัพท์ “0000000000”
  4. ในภาพนี้ แสดงเบอร์โทรศัพท์ “0000000000”
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขชื่อที่แสดงของผู้ใช้งาน (ชื่อจริง หรือชื่อที่ต้องการแสดง)
    • ในภาพนี้ แสดงชื่อที่แสดง “โรงพยาบาลปริ้นซ์”
  5. ช่อง “User Email” (อีเมลผู้ใช้งาน)
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขอีเมลของผู้ใช้งาน
    • ในภาพนี้ แสดงอีเมล “[email protected]
  6. ช่อง “User Type” (ประเภทผู้ใช้งาน)
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขประเภทของผู้ใช้งาน (เช่น Admin, Cashier)
    • ในภาพนี้ แสดงประเภทผู้ใช้งาน “Admin”
  7. ช่อง “Old password” (รหัสผ่านเก่า):
    • ใช้สำหรับป้อนรหัสผ่านเก่าของผู้ใช้งาน เมื่อต้องการแก้ไขรหัสผ่าน
    • ในภาพนี้ แสดงข้อความแนะนำ “Your old password here”
  8. ช่อง “New password” (รหัสผ่านใหม่):
    • ใช้สำหรับป้อนรหัสผ่านใหม่ของผู้ใช้งาน เมื่อต้องการแก้ไขรหัสผ่าน
    • ในภาพนี้ แสดงข้อความแนะนำ “Your new password here”
  9. ปุ่ม “Del” (ลบ):
    • ใช้สำหรับลบข้อมูลผู้ใช้งานที่แสดงอยู่ในหน้าต่างนี้
    • การคลิกปุ่มนี้จะลบข้อมูลผู้ใช้งานออกจากระบบอย่างถาวร
  10. ปุ่ม “Save all” (บันทึกทั้งหมด):
    • ใช้สำหรับบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ทำกับข้อมูลผู้ใช้งาน
    • การคลิกปุ่มนี้จะบันทึกข้อมูลผู้ใช้งานที่แก้ไข, และการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
  11. ปุ่ม “Close” (ปิด):
    • ใช้สำหรับปิดหน้าต่างป๊อปอัปโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    • การคลิกปุ่มนี้จะยกเลิกการแก้ไขทั้งหมดและปิดหน้าต่าง

สรุป
หน้าต่างป๊อปอัปนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลผู้ใช้งานได้อย่างละเอียด โดยสามารถ:

  • เปิดหรือปิดใช้งานผู้ใช้งาน
  • แก้ไขข้อมูลผู้ใช้งาน (ชื่อผู้ใช้งาน, เบอร์โทรศัพท์, ชื่อที่แสดง, อีเมล, ประเภท)
  • แก้ไขรหัสผ่านของผู้ใช้งาน
  • ลบข้อมูลผู้ใช้งาน
  • บันทึกการเปลี่ยนแปลง
  • ปิดหน้าต่างโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง

Setting / ตั้งค่าระบบ

เมนูรูปแบบการคิดเงิน
เมนูนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลรูปแบบการคิดเงินสำหรับลานจอดรถในระบบ DPark Online โดยมีรายละเอียดดังนี้:

เมนูรูปแบบการคิดเงิน

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. แถบเครื่องมือด้านบน
    • ปุ่ม “+” → เพิ่มรูปแบบการคิดเงินใหม่
    • ปุ่ม → การตั้งค่าเพิ่มเติม (อาจเป็นการนำเข้า/ส่งออกข้อมูล หรือการตั้งค่าอื่นๆ)
    • ช่องค้นหา → ค้นหารูปแบบการคิดเงิน
  2. ตารางแสดงรายการรูปแบบการคิดเงิน
    • คอลัมน์ ชื่อโปรไฟล์: แสดงชื่อรูปแบบการคิดเงิน
    • คอลัมน์ Code Name: แสดงรหัสของรูปแบบการคิดเงิน
    • คอลัมน์ Active: แสดงสถานะการเปิด/ปิดใช้งานรูปแบบการคิดเงิน
    • คอลัมน์ เวลาจอดฟรี: แสดงเวลาจอดฟรี (นาที)
    • คอลัมน์ ค่าจอดแรกเข้า: แสดงค่าจอดแรกเข้า (บาท)
    • คอลัมน์ ค่าปรับบัตรหาย: แสดงค่าปรับกรณีบัตรหาย (บาท)
    • คอลัมน์ ประเภทโปรไฟล์: แสดงประเภทของโปรไฟล์ (เช่น ปกติ)
    • รายการรูปแบบการคิดเงินที่มีข้อมูลต่างๆ เช่น ชื่อโปรไฟล์, รหัส, สถานะ, เวลาจอดฟรี, ค่าจอดแรกเข้า, ค่าปรับบัตรหาย, และประเภทโปรไฟล์
  3. ส่วนท้ายของหน้าจอ
    • ปุ่ม “Create Filter” → ใช้สำหรับสร้างตัวกรองข้อมูล
    • ตัวเลือกการแสดงผลจำนวนรายการต่อหน้า (25, 50, 100)
    • ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้า (หน้า 1, 2, 3)

การใช้งาน

  • การเพิ่มรูปแบบการคิดเงิน: คลิกปุ่ม “+” ในแถบเครื่องมือด้านบน
  • การแก้ไข/ลบรูปแบบการคิดเงิน: (อาจทำได้โดยการคลิกที่รูปแบบการคิดเงินในตาราง หรือผ่านเมนูการตั้งค่าเพิ่มเติม)
  • การค้นหารูปแบบการคิดเงิน: พิมพ์ชื่อรูปแบบการคิดเงิน หรือรหัสในช่องค้นหา
  • การกรองข้อมูล: ใช้ปุ่ม “Create Filter” เพื่อสร้างตัวกรองข้อมูลตามเงื่อนไขที่ต้องการ
  • การเปลี่ยนหน้า: ใช้ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้าเพื่อดูรายการรูปแบบการคิดเงินในหน้าอื่นๆ
  • การปรับจำนวนรายการต่อหน้า: เลือกจำนวนรายการที่ต้องการแสดงผลต่อหน้า (25, 50, หรือ 100)

ประโยชน์

  • การจัดการรูปแบบการคิดเงิน: ช่วยให้สามารถจัดการรูปแบบการคิดเงินสำหรับลานจอดรถได้อย่างเป็นระบบ
  • การค้นหาข้อมูล: ช่วยให้ค้นหารูปแบบการคิดเงินได้อย่างรวดเร็ว
  • การกรองข้อมูล: ช่วยให้แสดงผลเฉพาะรูปแบบการคิดเงินที่ต้องการ
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลรูปแบบการคิดเงินเพื่อการจัดการลานจอดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เพิ่ม/แก้ไข/ลบรูปแบบการคิดเงิน” ในระบบ DPark Online:

เพิ่ม/แก้ไข/ลบรูปแบบการคิดเงิน

คำอธิบายหมายเลขในภาพ

  1. สวิตช์ “เปิดใช้งาน”:
    • ใช้เพื่อเปิดหรือปิดใช้งานรูปแบบการคิดเงิน
    • หากเปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเหลือง) รูปแบบการคิดเงินจะสามารถใช้งานได้
    • หากปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเทา) รูปแบบการคิดเงินจะไม่สามารถใช้งานได้
  2. ช่อง “ชื่อโปรไฟล์”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขชื่อรูปแบบการคิดเงิน
    • ในภาพนี้ แสดงชื่อโปรไฟล์ “ปกติ”
  3. ช่อง “ค่าจอดแรกเข้า (บาท)”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขค่าจอดแรกเข้า
    • ในภาพนี้ แสดงค่าจอดแรกเข้า “10” บาท
  4. ช่อง “ค่าปรับบัตรหาย”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขค่าปรับกรณีบัตรหาย
    • ในภาพนี้ แสดงค่าปรับบัตรหาย “0” บาท
  5. ช่อง “ตัวย่อ”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขรหัสย่อของรูปแบบการคิดเงิน
    • ในภาพนี้ แสดงรหัสย่อ “Code name”
  6. ช่อง “ช่วงเวลาจอดฟรี (นาที)”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขช่วงเวลาจอดฟรี
    • ในภาพนี้ แสดงช่วงเวลาจอดฟรี “0” นาที
  7. สวิตช์ “เปิดใช้งานที่ Cashier:
    • ใช้เพื่อเปิดหรือปิดใช้งานรูปแบบการคิดเงินที่เครื่องคิดเงิน (Cashier)
    • หากเปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเหลือง) รูปแบบการคิดเงินจะปรากฏที่เครื่องคิดเงิน
    • หากปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเทา) รูปแบบการคิดเงินจะไม่ปรากฏที่เครื่องคิดเงิน
  8. ช่อง “ค่าจอดรายชั่วโมง”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขค่าจอดรายชั่วโมง ช่อง “ค่าจอดรายชั่วโมง” เป็นส่วนหนึ่งของการตั้งค่ารูปแบบการคิดเงินในระบบ ปุ่มสำหรับจัดการ E-Stamp ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์คันนี้ (อาจเป็นการเพิ่ม, แก้ไข, หรือตรวจสอบ E-Stamp)
ค่าจอดรายชั่วโมง

DPark Online ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดอัตราค่าจอดรถแบบรายชั่วโมงได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  • การกำหนดอัตราค่าจอดแบบเป็นช่วงเวลา: ช่องนี้จะแสดงอัตราค่าจอดรถสำหรับแต่ละชั่วโมงในช่วง 24 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นคู่ชั่วโมง (เช่น ชั่วโมงที่ 1 และ 2, ชั่วโมงที่ 3 และ 4, เป็นต้น)
  • การตั้งค่าค่าจอดสำหรับแต่ละชั่วโมง: ผู้ใช้สามารถป้อนค่าจอดรถเป็นตัวเลข (บาท) สำหรับแต่ละชั่วโมงได้
  • การตั้งค่าค่าจอดเป็น 0 บาท: หากผู้ใช้กำหนดค่าจอดเป็น 0 บาท แสดงว่าการจอดรถในช่วงเวลานั้นฟรี
  • การกำหนดค่าจอดแบบเป็นช่วงเวลา: ระบบจะคิดค่าจอดตามอัตราที่กำหนดไว้สำหรับแต่ละช่วงเวลา เช่น หากจอดรถ 3 ชั่วโมงแรก จะคิดค่าจอดตามอัตราที่กำหนดไว้ในช่อง “ชั่วโมงที่ 1” ถึง “ชั่วโมงที่ 3”

ตัวอย่างการใช้งาน

  • หากผู้ใช้กำหนดค่าจอดสำหรับ “ชั่วโมงที่ 1” และ “ชั่วโมงที่ 2” เป็น 20 บาท แสดงว่าค่าจอดรถสำหรับ 2 ชั่วโมงแรกคือ 40 บาท
  • หากผู้ใช้กำหนดค่าจอดสำหรับ “ชั่วโมงที่ 5” ถึง “ชั่วโมงที่ 24” เป็น 0 บาท แสดงว่าการจอดรถตั้งแต่ชั่วโมงที่ 5 เป็นต้นไปฟรี

ประโยชน์

  • การกำหนดอัตราค่าจอดที่ยืดหยุ่น: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดอัตราค่าจอดรถได้ตามช่วงเวลาต่างๆ
  • การส่งเสริมการจอดระยะสั้น: ผู้ใช้สามารถกำหนดอัตราค่าจอดที่แตกต่างกันสำหรับชั่วโมงแรกๆ เพื่อส่งเสริมการจอดระยะสั้น
  • การจัดการลานจอดรถในช่วงเวลาต่างๆ: ผู้ใช้สามารถกำหนดอัตราค่าจอดที่แตกต่างกันสำหรับช่วงเวลาที่มีความต้องการจอดรถสูงหรือต่ำ

10. ช่อง “การคิดค่าจอดค้างคืน”:

  • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขรูปแบบการคิดเงินสำหรับการจอดค้างคืน
    ช่อง “การคิดค่าจอดค้างคืน” เป็นส่วนหนึ่งของการตั้งค่ารูปแบบการคิดเงินในระบบ
การคิดค่าจอดค้างคืน

DPark Online ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดรูปแบบการคิดค่าจอดรถสำหรับการจอดค้างคืนได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  • สวิตช์ “เปิดใช้งานค่าจอดค้างคืน”: ใช้เพื่อเปิดหรือปิดใช้งานการคิดค่าจอดค้างคืน
    • หากเปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเหลือง) ระบบจะคิดค่าจอดค้างคืนตามการตั้งค่า
    • หากปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเทา) ระบบจะไม่คิดค่าจอดค้างคืน
  • ช่อง “เริ่ม” และ “ถึง”: ใช้สำหรับกำหนดช่วงเวลาการคิดค่าจอดค้างคืน
    • ในภาพตัวอย่าง เริ่มเวลา 09:00 PM และสิ้นสุดเวลา 05:00 AM
  • ช่อง “ค่าจอดแรกเข้า (บาท)”: ใช้สำหรับกำหนดค่าจอดแรกเข้าสำหรับการจอดค้างคืน
    • ในภาพตัวอย่าง กำหนดค่าจอดแรกเข้าเป็น 0 บาท
  • สวิตช์ “ใช้ค่าจอดค้างคืนรายชั่วโมง”: ใช้เพื่อกำหนดว่าจะใช้การคิดค่าจอดค้างคืนแบบรายชั่วโมงหรือไม่
    • หากเปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเหลือง) ระบบจะคิดค่าจอดค้างคืนแบบรายชั่วโมง
    • หากปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเทา) ระบบจะไม่คิดค่าจอดค้างคืนแบบรายชั่วโมง
  • ช่อง “ค่าจอดรายชั่วโมง (บาท)”: ใช้สำหรับกำหนดค่าจอดรายชั่วโมงสำหรับการจอดค้างคืน
    • ในภาพตัวอย่าง กำหนดค่าจอดรายชั่วโมงเป็น 0 บาท

ตัวอย่างการใช้งาน

  • กรณีเปิดใช้งานค่าจอดค้างคืน และใช้ค่าจอดค้างคืนรายชั่วโมง: หากผู้ใช้กำหนดค่าจอดรายชั่วโมงเป็น 50 บาท และจอดรถตั้งแต่ 10:00 PM ถึง 04:00 AM ระบบจะคิดค่าจอดค้างคืน 300 บาท (6 ชั่วโมง x 50 บาท)
  • กรณีเปิดใช้งานค่าจอดค้างคืน และไม่ใช้ค่าจอดค้างคืนรายชั่วโมง: หากผู้ใช้กำหนดค่าจอดแรกเข้าเป็น 100 บาท และจอดรถตั้งแต่ 10:00 PM ถึง 04:00 AM ระบบจะคิดค่าจอดค้างคืน 100 บาท (ไม่คิดตามรายชั่วโมง

ประโยชน์

  • การกำหนดอัตราค่าจอดที่เหมาะสม: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดอัตราค่าจอดค้างคืนที่เหมาะสมกับนโยบายของลานจอดรถ
  • การจัดการลานจอดรถในช่วงเวลากลางคืน: ช่วยให้สามารถจัดการลานจอดรถในช่วงเวลากลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การเพิ่มรายได้: ช่วยให้สามารถเพิ่มรายได้จากการจอดรถค้างคืน

11. ปุ่ม “Del” (ลบ)

  • ใช้สำหรับลบข้อมูลรูปแบบการคิดเงินที่แสดงอยู่ในหน้าต่างนี้
  • การคลิกปุ่มนี้จะลบข้อมูลรูปแบบการคิดเงินออกจากระบบอย่างถาวร

12. ปุ่ม “Save all” (บันทึกทั้งหมด):

  • ใช้สำหรับบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ทำกับข้อมูลรูปแบบการคิดเงิน
  • การคลิกปุ่มนี้จะบันทึกข้อมูลรูปแบบการคิดเงินที่แก้ไข, และการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ

13. ปุ่ม “Close” (ปิด):

  • ใช้สำหรับปิดหน้าต่างป๊อปอัปโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง
  • การคลิกปุ่มนี้จะยกเลิกการแก้ไขทั้งหมดและปิดหน้าต่าง

สรุป

หน้าต่างป๊อปอัปนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลรูปแบบการคิดเงินได้อย่างละเอียด โดยสามารถ:

  • เปิดหรือปิดใช้งานรูปแบบการคิดเงิน
  • แก้ไขข้อมูลรูปแบบการคิดเงิน (ชื่อโปรไฟล์, ค่าจอดแรกเข้า, ค่าปรับบัตรหาย, รหัสย่อ, ช่วงเวลาจอดฟรี, ค่าจอดรายชั่วโมง, รูปแบบการคิดหลังจอดฟรี, การคิดค่าจอดค้างคืน)
  • เปิดหรือปิดใช้งานรูปแบบการคิดเงินที่เครื่องคิดเงิน
  • ลบข้อมูลรูปแบบการคิดเงิน
  • บันทึกการเปลี่ยนแปลง
  • ปิดหน้าต่างโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง

เมนูสมาชิก
เมนูนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลสมาชิกในระบบ DPark Online โดยมีรายละเอียดดังนี้:

เมนูสมาชิก

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. แถบเครื่องมือด้านบน:
    • ปุ่ม “+” → เพิ่มสมาชิกใหม่
    • ปุ่ม → การตั้งค่าเพิ่มเติม (อาจเป็นการนำเข้า/ส่งออกข้อมูล หรือการตั้งค่าอื่นๆ)
    • ปุ่ม “Import File” → นำเข้าข้อมูลสมาชิกจากไฟล์
    • ช่องค้นหา → ค้นหาสมาชิก
  2. ตารางแสดงรายการสมาชิก:
    • คอลัมน์ หมายเลขบัตร/ทะเบียน: แสดงหมายเลขบัตรสมาชิก หรือทะเบียนรถยนต์ที่ผูกกับสมาชิก
    • คอลัมน์ ประเภท: แสดงประเภทของสมาชิก (เช่น FreeMember, Member)
    • คอลัมน์ อีเมล: แสดงอีเมลของสมาชิก
    • คอลัมน์ ชื่อสมาชิก: แสดงชื่อสมาชิก
    • รายการสมาชิกที่มีข้อมูลต่างๆ เช่น หมายเลขบัตร/ทะเบียน, ประเภท, อีเมล, และชื่อสมาชิก
  3. ส่วนท้ายของหน้าจอ:
    • ปุ่ม “Create Filter” → ใช้สำหรับสร้างตัวกรองข้อมูล
    • ตัวเลือกการแสดงผลจำนวนรายการต่อหน้า (25, 50, 100)
    • ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้า (หน้า 1, 2, 3, 4, 5…)

การใช้งาน

  • การเพิ่มสมาชิก: คลิกปุ่ม “+” ในแถบเครื่องมือด้านบน
  • การนำเข้าข้อมูลสมาชิก: คลิกปุ่ม “Import File” เพื่อนำเข้าข้อมูลจากไฟล์
  • การแก้ไข/ลบสมาชิก: (อาจทำได้โดยการคลิกที่สมาชิกในตาราง หรือผ่านเมนูการตั้งค่าเพิ่มเติม)
  • การค้นหาสมาชิก: พิมพ์ข้อมูลสมาชิกในช่องค้นหา (เช่น หมายเลขบัตร/ทะเบียน, ชื่อสมาชิก, อีเมล)
  • การกรองข้อมูล: ใช้ปุ่ม “Create Filter” เพื่อสร้างตัวกรองข้อมูลตามเงื่อนไขที่ต้องการ
  • การเปลี่ยนหน้า: ใช้ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้าเพื่อดูรายการสมาชิกในหน้าอื่นๆ
  • การปรับจำนวนรายการต่อหน้า: เลือกจำนวนรายการที่ต้องการแสดงผลต่อหน้า (25, 50, หรือ 100)

ประโยชน์

  • การจัดการข้อมูลสมาชิก: ช่วยให้สามารถจัดการข้อมูลสมาชิกได้อย่างเป็นระบบ
  • การค้นหาข้อมูล: ช่วยให้ค้นหาสมาชิกได้อย่างรวดเร็ว
  • การกรองข้อมูล: ช่วยให้แสดงผลเฉพาะสมาชิกที่ต้องการ
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลสมาชิกเพื่อการจัดการลานจอดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เพิ่ม/แก้ไข/ลบสมาชิก” ในระบบ DPark Online พร้อมหมายเหตุเกี่ยวกับ PDPA:

Add/Edit/Delete PDPA Members

คำอธิบายหมายเลขในภาพ

  1. สวิตช์ “เปิดใช้งาน”:
    • ใช้เพื่อเปิดหรือปิดใช้งานสมาชิก
    • หากเปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเหลือง) สมาชิกจะสามารถใช้งานได้
    • หากปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเทา) สมาชิกจะไม่สามารถใช้งานได้
  2. ช่อง “หมายเลขบัตรประชาชน”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขหมายเลขบัตรประชาชนของสมาชิก
    • หมายเหตุ: เนื่องจากหมายเลขบัตรประชาชนเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว การใช้งานช่องนี้ควรเป็นไปตามข้อกำหนดของ PDPA หากไม่จำเป็นต้องระบุหมายเลขบัตรประชาชน ควรพิจารณาใช้ข้อมูลอื่นแทน
  3. ช่อง “หมายเลขโทรศัพท์”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขหมายเลขโทรศัพท์ของสมาชิก
  4. ช่อง “ประเภท”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขประเภทของสมาชิก (เช่น FreeMember, Member)
  5. ช่อง “ชื่อสมาชิก”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขชื่อสมาชิก
  6. ช่อง “อีเมล”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขอีเมลของสมาชิก
  7. ช่อง “Member Address” (ที่อยู่สมาชิก):
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขที่อยู่ของสมาชิก
  8. ปุ่ม “Del” (ลบ):
    • ใช้สำหรับลบข้อมูลสมาชิกที่แสดงอยู่ในหน้าต่างนี้
    • การคลิกปุ่มนี้จะลบข้อมูลสมาชิกออกจากระบบอย่างถาวร
  9. ปุ่ม “Save all” (บันทึกทั้งหมด):
    • ใช้สำหรับบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ทำกับข้อมูลสมาชิก
    • การคลิกปุ่มนี้จะบันทึกข้อมูลสมาชิกที่แก้ไข, และการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
  10. ปุ่ม “Close” (ปิด):
    • ใช้สำหรับปิดหน้าต่างป๊อปอัปโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    • การคลิกปุ่มนี้จะยกเลิกการแก้ไขทั้งหมดและปิดหน้าต่าง

หมายเหตุเกี่ยวกับ PDPA

  • ความสำคัญของ PDPA: พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลธรรมดา การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หรือมีฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ที่กฎหมายอนุญาต
  • การเก็บข้อมูลหมายเลขบัตรประชาชน: หมายเลขบัตรประชาชนเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้ควรทำเท่าที่จำเป็น และมีฐานทางกฎหมายที่เหมาะสม หากไม่จำเป็นต้องใช้หมายเลขบัตรประชาชน ควรพิจารณาใช้ข้อมูลอื่นแทน เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หรือหมายเลขสมาชิกที่สร้างขึ้นเอง
  • การประยุกต์ใช้ข้อมูลอื่น: ในกรณีที่ติดเงื่อนไข PDPA สามารถประยุกต์ไปจัดเป็นข้อมูลอื่นๆได้ เพื่อระบุตัวตนของสมาชิกตามที่ต้องการ เช่น การใช้หมายเลขโทรศัพท์ หรือ อีเมล แทนหมายเลขบัตรประชาชน

สรุป

หน้าต่างป๊อปอัปนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลสมาชิกได้อย่างละเอียด โดยสามารถ:

  • เปิดหรือปิดใช้งานสมาชิก
  • แก้ไขข้อมูลสมาชิก (หมายเลขบัตรประชาชน, ชื่อสมาชิก, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, ที่อยู่)
  • ลบข้อมูลสมาชิก
  • บันทึกการเปลี่ยนแปลง
  • ปิดหน้าต่างโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง

เมนูบัตรสมาชิก
เมนูนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลบัตรสมาชิกในระบบ DPark Online โดยมีรายละเอียดดังนี้:

เมนูบัตรสมาชิก

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. แถบเครื่องมือด้านบน:
    • ปุ่ม “+” → เพิ่มบัตรสมาชิกใหม่
    • ปุ่ม → การตั้งค่าเพิ่มเติม (อาจเป็นการนำเข้า/ส่งออกข้อมูล หรือการตั้งค่าอื่นๆ)
    • ปุ่ม “Import File” → นำเข้าข้อมูลบัตรสมาชิกจากไฟล์
    • ช่องค้นหา → ค้นหาบัตรสมาชิก
  2. ตารางแสดงรายการบัตรสมาชิก:
    • คอลัมน์ หมายเลขบัตรสมาชิก: แสดงหมายเลขบัตรสมาชิก
    • คอลัมน์ ประเภท: แสดงประเภทของบัตรสมาชิก
    • คอลัมน์ ปิดใช้งาน: แสดงสถานะการเปิด/ปิดใช้งานบัตรสมาชิก
    • คอลัมน์ ชื่อสมาชิก: แสดงชื่อสมาชิก
    • คอลัมน์ วันที่เริ่ม: แสดงวันที่เริ่มใช้งานบัตรสมาชิก
    • คอลัมน์ วันที่สิ้นสุด: แสดงวันที่สิ้นสุดการใช้งานบัตรสมาชิก
    • คอลัมน์ คนสร้าง: แสดงชื่อผู้สร้างข้อมูลบัตรสมาชิก
    • รายการบัตรสมาชิกที่มีข้อมูลต่างๆ เช่น หมายเลขบัตร, ประเภท, สถานะ, ชื่อสมาชิก, วันที่เริ่ม, วันที่สิ้นสุด, และผู้สร้าง
  3. ส่วนท้ายของหน้าจอ:
    • ปุ่ม “Create Filter” → ใช้สำหรับสร้างตัวกรองข้อมูล
    • ตัวเลือกการแสดงผลจำนวนรายการต่อหน้า (25, 50, 100)
    • ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้า (หน้า 1, 2, 3)

การใช้งาน

  • การเพิ่มบัตรสมาชิก: คลิกปุ่ม “+” ในแถบเครื่องมือด้านบน
  • การนำเข้าข้อมูลบัตรสมาชิก: คลิกปุ่ม “Import File” เพื่อนำเข้าข้อมูลจากไฟล์
  • การแก้ไข/ลบบัตรสมาชิก: (อาจทำได้โดยการคลิกที่บัตรสมาชิกในตาราง หรือผ่านเมนูการตั้งค่าเพิ่มเติม)
  • การค้นหาบัตรสมาชิก: พิมพ์ข้อมูลบัตรสมาชิกในช่องค้นหา (เช่น หมายเลขบัตร, ชื่อสมาชิก)
  • การกรองข้อมูล: ใช้ปุ่ม “Create Filter” เพื่อสร้างตัวกรองข้อมูลตามเงื่อนไขที่ต้องการ
  • การเปลี่ยนหน้า: ใช้ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้าเพื่อดูรายการบัตรสมาชิกในหน้าอื่นๆ
  • การปรับจำนวนรายการต่อหน้า: เลือกจำนวนรายการที่ต้องการแสดงผลต่อหน้า (25, 50, หรือ 100)

ประโยชน์

  • การจัดการข้อมูลบัตรสมาชิก: ช่วยให้สามารถจัดการข้อมูลบัตรสมาชิกได้อย่างเป็นระบบ
  • การค้นหาข้อมูล: ช่วยให้ค้นหาบัตรสมาชิกได้อย่างรวดเร็ว
  • การกรองข้อมูล: ช่วยให้แสดงผลเฉพาะบัตรสมาชิกที่ต้องการ
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลบัตรสมาชิกเพื่อการจัดการลานจอดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เพิ่ม/แก้ไข/ลบบัตรสมาชิก” ในระบบ DPark Online:

เพิ่ม/แก้ไข/ลบบัตรสมาชิก

คำอธิบายหมายเลขในภาพ

  1. สวิตช์ “เปิดใช้งาน”:
    • ใช้เพื่อเปิดหรือปิดใช้งานบัตรสมาชิก
    • หากเปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเหลือง) บัตรสมาชิกจะสามารถใช้งานได้
    • หากปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเทา) บัตรสมาชิกจะไม่สามารถใช้งานได้
  2. ช่อง “หมายเลขบัตร หรือ ทะเบียนรถ”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขหมายเลขบัตรสมาชิก หรือทะเบียนรถยนต์ที่ผูกกับบัตรสมาชิก
    • ในภาพนี้ แสดงทะเบียนรถ “7 กง 7138”
  3. ช่อง “ประเภท”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขประเภทของบัตรสมาชิก (เช่น FreeMember, Member, VIP)
    • ในภาพนี้ แสดงประเภทบัตรสมาชิก “FreeMember”
  4. ช่อง “ชื่อสมาชิก”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขชื่อสมาชิก
    • ในภาพนี้ แสดงชื่อสมาชิก “ลิลลี่”
  5. ช่อง “Select Start Date” (เลือกวันที่เริ่มต้น):
    • ใช้สำหรับเลือกหรือแก้ไขวันที่เริ่มต้นใช้งานบัตรสมาชิก
    • ในภาพนี้ แสดงวันที่เริ่มต้น “03/23/2025 12:00 AM”
  6. ช่อง “Select End Date” (เลือกวันที่สิ้นสุด):
    • ใช้สำหรับเลือกหรือแก้ไขวันที่สิ้นสุดการใช้งานบัตรสมาชิก
    • ในภาพนี้ แสดงวันที่สิ้นสุด “03/26/2026 12:00 AM”
  7. ช่อง “Comment” (ความคิดเห็น):
    • ใช้สำหรับป้อนความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรสมาชิก (เช่น หมายเหตุ, ข้อมูลเพิ่มเติม)
  8. ปุ่ม “Del” (ลบ):
    • ใช้สำหรับลบข้อมูลบัตรสมาชิกที่แสดงอยู่ในหน้าต่างนี้
    • การคลิกปุ่มนี้จะลบข้อมูลบัตรสมาชิกออกจากระบบอย่างถาวร
  9. ปุ่ม “Save all” (บันทึกทั้งหมด):
    • ใช้สำหรับบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ทำกับข้อมูลบัตรสมาชิก
    • การคลิกปุ่มนี้จะบันทึกข้อมูลบัตรสมาชิกที่แก้ไข, และการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
  10. ปุ่ม “Close” (ปิด):
    • ใช้สำหรับปิดหน้าต่างป๊อปอัปโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    • การคลิกปุ่มนี้จะยกเลิกการแก้ไขทั้งหมดและปิดหน้าต่าง

หน้าต่างป๊อปอัปนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลบัตรสมาชิกได้อย่างละเอียด โดยสามารถ:

  • เปิดหรือปิดใช้งานบัตรสมาชิก
  • แก้ไขข้อมูลบัตรสมาชิก (หมายเลขบัตร/ทะเบียนรถ, ประเภท, ชื่อสมาชิก, วันที่เริ่ม, วันที่สิ้นสุด, ความคิดเห็น)
  • ลบข้อมูลบัตรสมาชิก
  • บันทึกการเปลี่ยนแปลง
  • ปิดหน้าต่างโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง

เมนูการตั้งค่าประเภทรถยนต์
เมนูนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดหมวดหมู่รถยนต์ตามประเภทต่างๆ เพื่อการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลลานจอดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมนูการตั้งค่าประเภทรถยนต์

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. ตารางแสดงรายการประเภทรถยนต์:
    • คอลัมน์ carTypeActive (สถานะใช้งาน): แสดงสถานะการใช้งานของประเภทรถยนต์แต่ละประเภท ผู้ใช้สามารถเลือกเปิดหรือปิดการใช้งานประเภทรถยนต์ได้
    • คอลัมน์ ประเภท (ชื่อประเภทของรถยนต์): แสดงชื่อประเภทของรถยนต์ เช่น รถยนต์ส่วนบุคคล, รถกระบะ, รถตู้/MPV, รถ SUV, รถ VAN, VIP/SuperCar, และอื่นๆ
    • ช่องทำเครื่องหมาย: ผู้ใช้สามารถเลือกหรือยกเลิกการเลือกประเภทรถยนต์แต่ละประเภทเพื่อกรองข้อมูลหรือดำเนินการอื่นๆ
  2. แถบเครื่องมือด้านบน:
    • ปุ่ม “+”: ใช้สำหรับเพิ่มประเภทรถยนต์ใหม่
    • ปุ่ม (Export data): ใช้สำหรับส่งออกข้อมูลประเภทรถยนต์เป็นไฟล์
    • ปุ่ม (จัดการคอลัมน์): ใช้สำหรับปรับแต่งคอลัมน์ที่แสดงในตาราง
    • **ช่องค้นหา **: ใช้สำหรับค้นหาประเภทรถยนต์ตามชื่อ
  3. ปุ่ม “Create Filter”:
    • อยู่ที่ด้านล่างของหน้าจอ ใช้สำหรับสร้างตัวกรองข้อมูลเพื่อแสดงผลเฉพาะประเภทรถยนต์ที่ต้องการ

การใช้งาน

  • การกรองข้อมูล: ผู้ใช้สามารถเลือกประเภทรถยนต์ที่ต้องการแสดงผลในตาราง โดยการทำเครื่องหมายในช่องทำเครื่องหมายหน้าประเภทรถยนต์
  • การเพิ่ม/แก้ไข/ลบประเภทรถยนต์: ผู้ใช้สามารถเพิ่มประเภทรถยนต์ใหม่, แก้ไขชื่อประเภทรถยนต์ที่มีอยู่, หรือลบประเภทรถยนต์ที่ไม่ต้องการผ่านแถบเครื่องมือด้านบน
  • การค้นหา: ผู้ใช้สามารถค้นหาประเภทรถยนต์โดยพิมพ์ชื่อประเภทรถยนต์ในช่องค้นหา
  • การส่งออกข้อมูล: ผู้ใช้สามารถส่งออกข้อมูลประเภทรถยนต์เป็นไฟล์เพื่อนำไปใช้งานต่อภายนอกระบบ

ประโยชน์

  • การจัดการข้อมูลลานจอดรถอย่างเป็นระบบ: ช่วยให้สามารถจัดหมวดหมู่รถยนต์ตามประเภทต่างๆ เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลลานจอดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การกรองข้อมูลที่ต้องการ: ช่วยให้สามารถแสดงผลเฉพาะข้อมูลประเภทรถยนต์ที่ต้องการ เพื่อการดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว
  • การปรับแต่งข้อมูล: ช่วยให้สามารถเพิ่ม, แก้ไข, หรือลบประเภทรถยนต์ได้ตามความต้องการ

“การเพิ่ม/แก้ไข/ลบประเภทรถยนต์” ในระบบ DPark Online:

การเพิ่ม/แก้ไข/ลบประเภทรถยนต์

คำอธิบายหมายเลขในภาพ

  1. สวิตช์ “เปิดใช้งาน”:
    • ใช้เพื่อเปิดหรือปิดใช้งานประเภทรถยนต์
    • หากเปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเหลือง) ประเภทรถยนต์จะปรากฏในรายการประเภทรถยนต์
    • หากปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเทา) ประเภทรถยนต์จะไม่ปรากฏในรายการประเภทรถยนต์
  2. ช่องชื่อประเภทรถยนต์ (บรรทัดแรก):
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขชื่อประเภทรถยนต์
    • ในภาพนี้ แสดงชื่อประเภทรถยนต์ “รถยนต์ส่วนบุคคล”
  3. ช่องชื่อประเภทรถยนต์ (บรรทัดที่สอง):
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขชื่อประเภทรถยนต์
    • ในภาพนี้ แสดงชื่อประเภทรถยนต์ “เก่ง+กระบะ”
    • โดยทั่วไป ช่องนี้อาจใช้สำหรับป้อนคำอธิบายเพิ่มเติม หรือชื่อประเภทรถยนต์ที่ยาวขึ้น
  4. ปุ่ม “Del” (ลบ):
    • ใช้สำหรับลบประเภทรถยนต์ที่เลือก
    • การคลิกปุ่มนี้จะลบประเภทรถยนต์ออกจากระบบอย่างถาวร
  5. ปุ่ม “Save all” (บันทึกทั้งหมด):
    • ใช้สำหรับบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ทำกับประเภทรถยนต์
    • การคลิกปุ่มนี้จะบันทึกชื่อประเภทรถยนต์ที่แก้ไข, สถานะการเปิด/ปิดใช้งาน, และการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
  6. ปุ่ม “Close” (ปิด):
    • ใช้สำหรับปิดหน้าต่างป๊อปอัปโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    • การคลิกปุ่มนี้จะยกเลิกการแก้ไขทั้งหมดและปิดหน้าต่าง

สรุป

หน้าต่างป๊อปอัปนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการประเภทรถยนต์ได้อย่างละเอียด โดยสามารถ:

  • เปิดหรือปิดใช้งานประเภทรถยนต์
  • แก้ไขชื่อประเภทรถยนต์
  • ลบประเภทรถยนต์
  • บันทึกการเปลี่ยนแปลง
  • ปิดหน้าต่างโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง

เมนูยี่ห้อรถยนต์
เมนูนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการยี่ห้อรถยนต์ในระบบ DPark Online โดยมีรายละเอียดดังนี้:

เมนูยี่ห้อรถยนต์

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. แถบเครื่องมือด้านบน:
    • ปุ่ม “+” → เพิ่มยี่ห้อรถยนต์ใหม่
    • ปุ่ม → การตั้งค่าเพิ่มเติม (อาจเป็นการนำเข้า/ส่งออกข้อมูล หรือการตั้งค่าอื่นๆ)
    • ช่องค้นหา → ค้นหายี่ห้อรถยนต์
  2. ตารางแสดงรายการยี่ห้อรถยนต์:
    • คอลัมน์ Active (สถานะใช้งาน): แสดงสถานะการใช้งานของยี่ห้อรถยนต์แต่ละยี่ห้อ
    • คอลัมน์ ยี่ห้อรถยนต์: แสดงชื่อยี่ห้อรถยนต์
    • รายการยี่ห้อรถยนต์ที่มีอยู่ เช่น BYD, Porsche, Ford, Fiat, Morris Garages, Mazda, MINI, Mitsubishi, NETA, Peugeot, และอื่นๆ
  3. ส่วนท้ายของหน้าจอ:
    • ปุ่ม “Create Filter” → ใช้สำหรับสร้างตัวกรองข้อมูล
    • ตัวเลือกการแสดงผลจำนวนรายการต่อหน้า (25, 50, 100)
    • ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้า (หน้า 1, 2, 3)

การใช้งาน

  • การเพิ่มยี่ห้อรถยนต์: คลิกปุ่ม “+” ในแถบเครื่องมือด้านบน
  • การแก้ไข/ลบยี่ห้อรถยนต์: (อาจทำได้โดยการคลิกที่ยี่ห้อรถยนต์ในตาราง หรือผ่านเมนูการตั้งค่าเพิ่มเติม)
  • การค้นหายี่ห้อรถยนต์: พิมพ์ชื่อยี่ห้อรถยนต์ในช่องค้นหา
  • การกรองข้อมูล: ใช้ปุ่ม “Create Filter” เพื่อสร้างตัวกรองข้อมูลตามเงื่อนไขที่ต้องการ
  • การเปลี่ยนหน้า: ใช้ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้าเพื่อดูรายการยี่ห้อรถยนต์ในหน้าอื่นๆ
  • การปรับจำนวนรายการต่อหน้า: เลือกจำนวนรายการที่ต้องการแสดงผลต่อหน้า (25, 50, หรือ 100)

ประโยชน์

  • การจัดหมวดหมู่รถยนต์: ช่วยให้สามารถจัดหมวดหมู่รถยนต์ตามยี่ห้อได้
  • การค้นหาข้อมูล: ช่วยให้ค้นหายี่ห้อรถยนต์ได้อย่างรวดเร็ว
  • การกรองข้อมูล: ช่วยให้แสดงผลเฉพาะยี่ห้อรถยนต์ที่ต้องการ
  • การจัดการข้อมูล: ช่วยให้เพิ่ม, แก้ไข, หรือลบยี่ห้อรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย

“การเพิ่ม/แก้ไข/ลบยี่ห้อรถยนต์” ในระบบ DPark Online:

การเพิ่ม/แก้ไข/ลบยี่ห้อรถยนต์

คำอธิบายหมายเลขในภาพ

  1. สวิตช์ “เปิดใช้งาน”:
    • ใช้เพื่อเปิดหรือปิดใช้งานยี่ห้อรถยนต์
    • หากเปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเหลือง) ยี่ห้อรถยนต์จะปรากฏในรายการยี่ห้อรถยนต์
    • หากปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเทา) ยี่ห้อรถยนต์จะไม่ปรากฏในรายการยี่ห้อรถยนต์
  2. ช่องชื่อยี่ห้อรถยนต์:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขชื่อยี่ห้อรถยนต์
    • ในภาพนี้ แสดงชื่อยี่ห้อรถยนต์ “ปอร์เช่ (Porsche)”
  3. ปุ่ม “Del” (ลบ):
    • ใช้สำหรับลบยี่ห้อรถยนต์ที่เลือก
    • การคลิกปุ่มนี้จะลบยี่ห้อรถยนต์ออกจากระบบอย่างถาวร
  4. ปุ่ม “Save all” (บันทึกทั้งหมด):
    • ใช้สำหรับบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ทำกับยี่ห้อรถยนต์
    • การคลิกปุ่มนี้จะบันทึกชื่อยี่ห้อรถยนต์ที่แก้ไข, สถานะการเปิด/ปิดใช้งาน, และการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
  5. ปุ่ม “Close” (ปิด):
    • ใช้สำหรับปิดหน้าต่างป๊อปอัปโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    • การคลิกปุ่มนี้จะยกเลิกการแก้ไขทั้งหมดและปิดหน้าต่าง

สรุป

หน้าต่างป๊อปอัปนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการยี่ห้อรถยนต์ได้อย่างละเอียด โดยสามารถ:

  • เปิดหรือปิดใช้งานยี่ห้อรถยนต์
  • แก้ไขชื่อยี่ห้อรถยนต์
  • ลบยี่ห้อรถยนต์
  • บันทึกการเปลี่ยนแปลง
  • ปิดหน้าต่างโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง

เมนูรถยนต์
เมนูนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลรถยนต์ในระบบ DPark Online โดยมีรายละเอียดดังนี้:

เมนูรถยนต์

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. แถบเครื่องมือด้านบน
    • ปุ่ม “+” → เพิ่มรถยนต์ใหม่
    • ปุ่ม → การตั้งค่าเพิ่มเติม (อาจเป็นการนำเข้า/ส่งออกข้อมูล หรือการตั้งค่าอื่นๆ)
    • ช่องค้นหา → ค้นหารถยนต์
  2. ตารางแสดงรายการรถยนต์:
    • คอลัมน์ ป้ายทะเบียน: แสดงป้ายทะเบียนรถยนต์
    • คอลัมน์ ประเภทรถยนต์: แสดงประเภทของรถยนต์
    • คอลัมน์ ยี่ห้อรถยนต์: แสดงยี่ห้อของรถยนต์
    • คอลัมน์ โมเดลรถยนต์: แสดงโมเดลของรถยนต์
    • คอลัมน์ จังหวัด: แสดงจังหวัดที่รถยนต์จดทะเบียน
    • คอลัมน์ เจ้าของ: แสดงชื่อเจ้าของรถยนต์
    • รายการรถยนต์ที่มีข้อมูลต่างๆ เช่น ป้ายทะเบียน, ประเภทรถยนต์, ยี่ห้อรถยนต์, โมเดลรถยนต์, จังหวัด, และเจ้าของ
  3. ส่วนท้ายของหน้าจอ:
    • ปุ่ม “Create Filter” → ใช้สำหรับสร้างตัวกรองข้อมูล
    • ตัวเลือกการแสดงผลจำนวนรายการต่อหน้า (25, 50, 100)
    • ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้า (หน้า 1, 2, 3)

การใช้งาน

  • การเพิ่มรถยนต์: คลิกปุ่ม “+” ในแถบเครื่องมือด้านบน
  • การแก้ไข/ลบรถยนต์: (อาจทำได้โดยการคลิกที่รถยนต์ในตาราง หรือผ่านเมนูการตั้งค่าเพิ่มเติม)
  • การค้นหารถยนต์: พิมพ์ข้อมูลรถยนต์ในช่องค้นหา (เช่น ป้ายทะเบียน, ยี่ห้อ, โมเดล)
  • การกรองข้อมูล: ใช้ปุ่ม “Create Filter” เพื่อสร้างตัวกรองข้อมูลตามเงื่อนไขที่ต้องการ
  • การเปลี่ยนหน้า: ใช้ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้าเพื่อดูรายการรถยนต์ในหน้าอื่นๆ
  • การปรับจำนวนรายการต่อหน้า: เลือกจำนวนรายการที่ต้องการแสดงผลต่อหน้า (25, 50, หรือ 100)

ประโยชน์

  • การจัดการข้อมูลรถยนต์: ช่วยให้สามารถจัดการข้อมูลรถยนต์ได้อย่างเป็นระบบ
  • การค้นหาข้อมูล: ช่วยให้ค้นหารถยนต์ได้อย่างรวดเร็ว
  • การกรองข้อมูล: ช่วยให้แสดงผลเฉพาะรถยนต์ที่ต้องการ
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลรถยนต์เพื่อการจัดการลานจอดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เพิ่ม/แก้ไข/ลบรถยนต์” ในระบบ DPark Online:

เพิ่ม/แก้ไข/ลบรถยนต์

คำอธิบายหมายเลขในภาพ

  1. ช่อง “ทะเบียนรถ”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขทะเบียนรถยนต์
    • ในภาพนี้ แสดงทะเบียนรถ “7 กง 7138”
  2. ช่อง “เจ้าของ”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขชื่อเจ้าของรถยนต์
    • ในภาพนี้ แสดงชื่อเจ้าของ “ลิลลี่”
  3. ช่อง “ยี่ห้อรถ”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขยี่ห้อรถยนต์
    • ในภาพนี้ แสดงยี่ห้อรถ “ซูซูกิ (Suzuki)”
  4. ช่อง “สีรถ”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขสีรถยนต์
    • ในภาพนี้ แสดงสีรถ “แดง”
  5. ช่อง “จังหวัด”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขจังหวัดที่รถยนต์จดทะเบียน
    • ในภาพนี้ แสดงจังหวัด “กรุงเทพมหานคร”
  6. ช่อง “ประเภทรถยนต์”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขประเภทรถยนต์
    • ในภาพนี้ แสดงประเภทรถยนต์ “รถยนต์ส่วนบุคคล”
  7. ช่อง “โมเดลรถ”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขโมเดลรถยนต์
    • ในภาพนี้ แสดงโมเดลรถ “switf”
  8. ปุ่ม “Del” (ลบ):
    • ใช้สำหรับลบข้อมูลรถยนต์ที่แสดงอยู่ในหน้าต่างนี้
    • การคลิกปุ่มนี้จะลบข้อมูลรถยนต์ออกจากระบบอย่างถาวร
  9. ปุ่ม “Save all” (บันทึกทั้งหมด):
    • ใช้สำหรับบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ทำกับข้อมูลรถยนต์
    • การคลิกปุ่มนี้จะบันทึกข้อมูลรถยนต์ที่แก้ไข, และการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
  10. ปุ่ม “Close” (ปิด):
    • ใช้สำหรับปิดหน้าต่างป๊อปอัปโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    • การคลิกปุ่มนี้จะยกเลิกการแก้ไขทั้งหมดและปิดหน้าต่าง

สรุป

หน้าต่างป๊อปอัปนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลรถยนต์ได้อย่างละเอียด โดยสามารถ:

  • แก้ไขข้อมูลรถยนต์ต่างๆ (ทะเบียน, เจ้าของ, ยี่ห้อ, สี, จังหวัด, ประเภท, โมเดล)
  • ลบข้อมูลรถยนต์
  • บันทึกการเปลี่ยนแปลง
  • ปิดหน้าต่างโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง

เมนูพื้นที่จอด
เมนูนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลพื้นลานจอดรถในระบบ DPark Online โดยมีรายละเอียดดังนี้

เมนูพื้นที่จอดรถ

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. แถบเครื่องมือด้านบน:
    • ปุ่ม “+” → เพิ่มพื้นลานจอดรถใหม่
    • ปุ่ม → การตั้งค่าเพิ่มเติม (อาจเป็นการนำเข้า/ส่งออกข้อมูล หรือการตั้งค่าอื่นๆ)
    • ช่องค้นหา → ค้นหาพื้นลานจอดรถ
  2. ตารางแสดงรายการพื้นลานจอดรถ:
    • คอลัมน์ วันที่สร้าง: แสดงวันที่สร้างข้อมูลพื้นลานจอดรถ
    • คอลัมน์ ชื่อพื้นลานจอดรถ: แสดงชื่อพื้นลานจอดรถ
    • คอลัมน์ ช่องจอดรถที่สามารถจอดได้: แสดงจำนวนช่องจอดรถที่สามารถจอดได้
    • คอลัมน์ เปิดใช้งาน: แสดงสถานะการเปิด/ปิดใช้งานพื้นลานจอดรถ
    • รายการพื้นลานจอดรถที่มีข้อมูลต่างๆ เช่น วันที่สร้าง, ชื่อพื้นลานจอดรถ, จำนวนช่องจอดรถ, และสถานะการเปิด/ปิดใช้งาน
  3. ส่วนท้ายของหน้าจอ:
    • ปุ่ม “Create Filter” → ใช้สำหรับสร้างตัวกรองข้อมูล
    • ตัวเลือกการแสดงผลจำนวนรายการต่อหน้า (25, 50, 100)
    • ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้า (หน้า 1, 2, 3)

การใช้งาน

  • การเพิ่มพื้นลานจอดรถ: คลิกปุ่ม “+” ในแถบเครื่องมือด้านบน
  • การแก้ไข/ลบพื้นลานจอดรถ: (อาจทำได้โดยการคลิกที่พื้นลานจอดรถในตาราง หรือผ่านเมนูการตั้งค่าเพิ่มเติม)
  • การค้นหาพื้นลานจอดรถ: พิมพ์ชื่อพื้นลานจอดรถในช่องค้นหา
  • การกรองข้อมูล: ใช้ปุ่ม “Create Filter” เพื่อสร้างตัวกรองข้อมูลตามเงื่อนไขที่ต้องการ
  • การเปลี่ยนหน้า: ใช้ตัวควบคุมการเปลี่ยนหน้าเพื่อดูรายการพื้นลานจอดรถในหน้าอื่นๆ
  • การปรับจำนวนรายการต่อหน้า: เลือกจำนวนรายการที่ต้องการแสดงผลต่อหน้า (25, 50, หรือ 100)

ประโยชน์

  • การจัดการข้อมูลพื้นลานจอดรถ: ช่วยให้สามารถจัดการข้อมูลพื้นลานจอดรถได้อย่างเป็นระบบ
  • การค้นหาข้อมูล: ช่วยให้ค้นหาพื้นลานจอดรถได้อย่างรวดเร็ว
  • การกรองข้อมูล: ช่วยให้แสดงผลเฉพาะพื้นลานจอดรถที่ต้องการ
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลพื้นลานจอดรถเพื่อการจัดการลานจอดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เพิ่ม/แก้ไข/ลบพื้นที่จอด” ในระบบ DPark Online:

เพิ่ม/แก้ไข/ลบพื้นที่จอด

คำอธิบายหมายเลขในภาพ

  1. สวิตช์ “เปิด/ปิด”:
    • ใช้เพื่อเปิดหรือปิดใช้งานพื้นลานจอดรถ
    • หากเปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเหลือง) พื้นลานจอดรถจะปรากฏในรายการพื้นลานจอดรถ
    • หากปิดใช้งาน (สวิตช์เป็นสีเทา) พื้นลานจอดรถจะไม่ปรากฏในรายการพื้นลานจอดรถ
  2. ช่องชื่อ “พื้นที่จอด”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขชื่อพื้นลานจอดรถ
    • ในภาพนี้ แสดงชื่อพื้นลานจอดรถ “พื้นที่จอดชั้นล่าง”
  3. ช่องจำนวนช่องจอด “500”:
    • ใช้สำหรับป้อนหรือแก้ไขจำนวนช่องจอดรถที่สามารถจอดได้
    • ในภาพนี้ แสดงจำนวนช่องจอดรถ 500 ช่อง
  4. ปุ่ม “Del” (ลบ):
    • ใช้สำหรับลบข้อมูลพื้นลานจอดรถที่แสดงอยู่ในหน้าต่างนี้
    • การคลิกปุ่มนี้จะลบข้อมูลพื้นลานจอดรถออกจากระบบอย่างถาวร
  5. ปุ่ม “Save all” (บันทึกทั้งหมด):
    • ใช้สำหรับบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ทำกับข้อมูลพื้นลานจอดรถ
    • การคลิกปุ่มนี้จะบันทึกข้อมูลพื้นลานจอดรถที่แก้ไข, และการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
  6. ปุ่ม “Close” (ปิด):
    • ใช้สำหรับปิดหน้าต่างป๊อปอัปโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง
    • การคลิกปุ่มนี้จะยกเลิกการแก้ไขทั้งหมดและปิดหน้าต่าง

สรุป

หน้าต่างป๊อปอัปนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลพื้นลานจอดรถได้อย่างละเอียด โดยสามารถ:

  • เปิดหรือปิดใช้งานพื้นลานจอดรถ
  • แก้ไขชื่อพื้นลานจอดรถ
  • แก้ไขจำนวนช่องจอดรถ
  • ลบข้อมูลพื้นลานจอดรถ
  • บันทึกการเปลี่ยนแปลง
  • ปิดหน้าต่างโดยไม่บันทึกการเปลี่ยนแปลง

เมนูตั้งค่าฟังก์ชัน
เมนูนี้ใช้สำหรับกำหนดค่าการทำงานต่างๆ ของระบบ DPark Online โดยมีรายละเอียดดังนี้:

เมนูตั้งค่าฟังก์ชัน

ส่วนประกอบหลักของหน้าจอ

  1. แถบเครื่องมือด้านบน:
    • ปุ่ม “+” → เพิ่มรายการตั้งค่าใหม่
    • ปุ่ม → การตั้งค่าเพิ่มเติม (อาจเป็นการนำเข้า/ส่งออกข้อมูล หรือการตั้งค่าอื่นๆ)
    • ช่องค้นหา → ค้นหารายการตั้งค่า
  2. ตารางแสดงรายการตั้งค่า:
    • คอลัมน์ “ID: แสดงหมายเลข ID ของรายการตั้งค่า
    • คอลัมน์ “Param Key”: แสดงชื่อพารามิเตอร์ (Parameter Key) ซึ่งเป็นรหัสสำหรับระบุการตั้งค่า 
      • logoDisplay (ห้ามแก้ไข): พารามิเตอร์นี้ใช้สำหรับจัดเก็บ URL ของโลโก้ที่จะแสดงในระบบ ห้ามแก้ไขค่าในส่วนนี้
      • estamp_PaymentUrl (ห้ามแก้ไข): พารามิเตอร์นี้ใช้สำหรับจัดเก็บ URL สำหรับการเรียกใช้งานระบบชำระเงิน เช่น http://payment.devdls.com/call_qr_pay ห้ามแก้ไขค่าในส่วนนี้
      • e-stamp_SN (ห้ามแก้ไข): พารามิเตอร์นี้ใช้สำหรับจัดเก็บ Serial Number ของระบบ E-Stamp ห้ามแก้ไขค่าในส่วนนี้
    • คอลัมน์ “Param Value”: แสดงค่าของพารามิเตอร์นั้นๆ
      • ค่าของ logoDisplay จะเป็น URL ของไฟล์รูปภาพโลโก้
      • ค่าของ e-stamp_PaymentUrl จะเป็น URL ของระบบชำระเงิน
      • ค่าของ e-stamp_SN จะเป็นหมายเลข Serial Number
    • รายการตั้งค่าอื่นๆ ที่อาจมีในระบบ
  3. ส่วนท้ายของหน้าจอ:
    • ปุ่ม “Create Filter”: ใช้สำหรับสร้างตัวกรองข้อมูล

การใช้งาน

  • การดูค่าตั้งค่า: ผู้ใช้สามารถดูค่าที่ตั้งไว้สำหรับแต่ละพารามิเตอร์
  • การแก้ไขค่าตั้งค่า (สำหรับพารามิเตอร์ที่ไม่ถูกระบุว่าห้ามแก้ไข): ผู้ใช้สามารถแก้ไขค่าในคอลัมน์ “Param Value” สำหรับพารามิเตอร์ที่อนุญาตให้แก้ไขได้
  • การค้นหารายการตั้งค่า: ผู้ใช้สามารถค้นหารายการตั้งค่าโดยใช้ชื่อพารามิเตอร์ หรือค่า
  • การกรองข้อมูล: ผู้ใช้สามารถสร้างตัวกรองเพื่อแสดงเฉพาะรายการตั้งค่าที่ต้องการ

ข้อควรระวัง: ตามที่คุณระบุ พารามิเตอร์ logoDisplay, e-stamp_PaymentUrl, และ e-stamp_SN เป็นค่าที่ ห้ามแก้ไข การแก้ไขค่าเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบ

ประโยชน์

  • การจัดการค่าตั้งค่า: ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการค่าการทำงานต่างๆ ของระบบได้จากส่วนกลาง
  • การปรับแต่งระบบ: ช่วยให้สามารถปรับแต่งลักษณะการทำงานของระบบให้ตรงกับความต้องการ
  • การควบคุมการทำงาน: ช่วยควบคุมการเชื่อมต่อกับระบบภายนอก เช่น ระบบชำระเงิน